*Magnify*
SPONSORED LINKS
Printed from https://www.writing.com/main/view_item/item_id/1569533-The-Carelessness-of-Grandpa-Sew
Printer Friendly Page Tell A Friend
No ratings.
Rated: ASR · Outline · Experience · #1569533
An old man signed contract carelessly. He was cheated, finally.
                                       

                                      นิทานเศรษฐศาสตร์

                                        ปู่ซิวผู้ไม่รอบคอบ



          นานมาแล้ว ไม่รู้ว่านานแค่ไหน  เอาเป็นว่านานก็แล้วกัน  ที่ตลาดอำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา มีภรรยาสามีชราที่รักกันมาก  ภรรยาชื่อสุย  สามีชื่อซิว  ทั้งสองคนไม่มีบุตรธิดา  หมายความว่า ย่าสุยไม่มีลูกกับปู่ซิว และก็ไม่มีลูกกับใครๆด้วย  ปู่ซิวก็ไม่มีลูกกับย่าสุย และไม่มีลูกกับใครๆด้วย  ทั้งสองจึงไม่มีบุตรธิดาโดยสิ้นเชิง

กลางดึกคืนหนึ่ง  ทั้งสองคนนอนไม่หลับ เพราะย่าสุยกินกาแฟกับขนมเปี๊ยตั้งเซ่งจั๊วเข้าไปแยะ  จึงประสาทแข็งและท้องอืด ส่วนปู่ซิวก็นอนกลางวันมาจนตาบวม  เมื่อนอนไม่หลับก็น่าจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์  ทั้งสองปู่ย่าจึงปรึกษากันว่า  อันตัวเราก็เฒ่ามากแล้ว  ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ทั้งสองคน  คนใดป่วย อีกคนหนึ่งก็พอลากลู่ถูกังไปหาหมอได้    แต่ถ้าใครเท่งตึงไปก่อน  คนที่มีชีวิตอยู่จะลำบากมากๆ  ใครจะดูแล  จะเอาเงินที่ไหนจ้างคนมาดูแล  ฉะนั้นเราน่าจะทำประกันชีวิตเอาไว้    ถ้าฝ่ายใดตายไป คนที่ยังอยู่ก็จะได้เงินมากมาย  พอที่จะเลี้ยงชีวิตที่เหลือพะเยิบพะยาบได้อย่างสบาย

      ย่าสุยบอกปู่ซิวว่า  ถ้าย่าสุยตายไป ปู่ซิวก็จะได้เงินประกันชีวิตก้อนโต  ย่าอนุญาตให้ปู่ซิวไปจ้างหมวยสาวขาวอวบมาเป็นเมียคอยดูแลปู่ให้มีความสุข  ปู่ซิวได้ยินดังนั้นก็ดีใจยิ้มแก้มย้อย  นึกในใจว่า  ทีนี้ละคงเป็นสวรรค์ของปู่ละ  แต่แล้วปู่ซิวก็ต้องหุบยิ้ม  เมื่อย่าสุยกล่าวต่อไปว่า และทำนองเดียวกัน  ถ้าปู่ซิวม่องเท่งไปก่อน ย่าสุยก็จะเอาเงินก้อนใหญ่นี้ไปจ้างตี๋หนุ่มมาเป็นผัว  ให้ช่วยประคองหอมแก้มเช้าเย็นให้จั๊กกะจี้ประสาทพอยืดอายุให้ยืนยาว  แล้วจะไปฮันนีมูนที่แม่น้ำหลีเจียง เมืองจีนโน่น





        แต่ถึงอย่างไร ปู่ก็ยอมย่า  เพราะปู่ต้องยอมมาตลอด ไม่เคยชนะย่าสักครั้ง    ตอนสายๆวันรุ่งขึ้น ทั้งสองผู้เฒ่าลงเรือเมล์แดงล่องแม่น้ำบางปะกงสองชั่วโมงไปแปดริ้ว  พากันไปทำประกันชีวิตที่บริษัทจีนคุ้ย  บอกความประสงค์ให้พนักงานทราบถึงเงื่อนไขและเงินรางวัลห้าแสนบาทเมื่อมีผู้ใดเสียชีวิต  พนักงานของบริษัทซักถามอยู่ครู่หนึ่งก็จัดแจงทำสัญญาพนัน ที่เราเรียกกันว่า “กรมธรรม์ – policy”  เขียนให้ตามความประสงค์ของปู่และย่า  สักชั่วโมงหนึ่งก็เสร็จ  ปู่ซิวกับย่าสุยก็เก็บสัญญาพนันตายก่อนตายหลัง นั่งเรือเมล์เขียวกลับตลาดบางคล้า

        คนเรานั้น แม้ในอดีตจะรักกัน  ครั้นเมื่อมีผลประโยชน์เกิดขึ้น  ความเห็นแก่ตัวก็เข้ามาแทนความรัก    นับจากวันนั้นเป็นต้นไป  ย่าสุยกะปู่ซิวก็หงองแหงงทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง  ทะเลาะกันคราวไร  ย่าสุยก็แช่งให้ปู่ซิวตายวันตายคืน  ปู่ซิวก็แช่งให้ย่าสุยตายเช้าตายเย็น  จนวันหนึ่งปู่ซิวชนะ  ย่าสุยดูงิ้วบทตลกที่ศาลเจ้าริมแม่น้ำ หัวเราะสำลัก เศษเต้าหู้ทอดอุดหลอดลมตาย  ปู่ซิวร้องไห้ตามธรรมเนียมผัวเมีย  แล้วก็นำย่าสุยไปฝังที่เชิงเขาสำโรง  ที่อยู่ห่างออกไปราวสามกิโลเมตร 

      เมื่อจัดการกับเนื้อหนังของย่าสุยเสร็จตามประเพณีแล้ว  ปู่ซิวก็ลงเรือไปแปดริ้ว ไปทำธุระเรียกเงินกับบริษัทจีนคุ้ยประกันชีวิต  หวังว่าบริษัทจะต้องจ่ายเงินให้ห้าแสนบาทตามสัญญา  ซึ่งเป็นเงินมากมหาศาลในเวลานั้น  แม้เศรษฐีอย่างเถ้าแก่โรงสีก็ไม่มีเงินมากเท่านี้    เมื่อแจ้งข่าวร้ายให้พนักงานทราบ  พนักงานหายเข้าไปหลังบริษัทพักหนึ่ง  ก็นำใบสัญญาที่เรียกว่ากรมธรรม์มาให้ปู่ซิวอ่าน  ทั้งภาษาไทยภาษาจีน  ปู่ซิวมองไม่เห็น  เมื่อเอาแว่นมาขยายตัวหนังสือตัวเท่าเหาให้ใหญ่พออ่านได้ ปู่ซิวและพนักงานก็อ่านไปพร้อมๆกัน ข้อความสำคัญที่เป็นเงือนไขเขียนไว้ว่า  “เมื่อฝ่ายใดตายลง  ให้ฝ่ายที่ยังอยู่นำอาหารไปเซ่นไหว้และบรรเลงดนตรีหรือร้องเพลงให้ศพฟัง  โดยไม่ขาดหายแม้แต่วันเดียว เป็นเวลา 50 ปี จึงมารับเงินชนะพนันได้  หากไม่ปฏิบัติตาม ก็ไม่ได้รับเงิน  ให้บริษัทนำเงินไปเผาศพเศรษฐีที่ไม่มีญาติ”        เมื่อทั้งสองอ่านจบ ปู่ซิวก็เป็นลมฟุบตะแคงแอ้งแม้งคาม้ายาว 

         

      ปู่ซิวเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่เสียรู้บริษัทประกันชีวิตจีนคุ้ย  รำพึงในใจว่า เมื่อเราเห็นหนังสือสัญญาตัวยิบๆเท่าไข่เหา เราน่าจะสงสัย  จึงควรอ่านให้เข้าใจดีก่อน  ดูว่าเขาอำพรางอะไรเราไว้บ้าง  แล้วจึงค่อยลงชื่อ

      แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว  ถึงจะต้องรออีกห้าสิบปี ก็ยังมีโอกาสได้เงิน  ถ้าปล่อยไปไม่ปฏิบัติอะไรเลย ก็จะไม่ได้อะไรเลย ถือหลักว่า “อาจจะได้ ดีกว่าไม่มีทางได้”  อย่างน้อยก็ได้ไปเคารพศพภรรยา  ดีไม่ดีย่าสุยอาจใบ้หวยมาให้ ก็จะได้เงินมาใช้บ้าง

      นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา  ตอนเช้าปู่ซิวก็ต้องออกเดินทางนำซุปไปเซ่นไหว้และบรรเลงซอจีนให้ย่าสุยฟังทุกวัน  และขอให้สถานีโทรทัศน์มาถ่ายทำเรื่องออกอากาศให้ประชาชนเป็นพยานอีกทางหนึ่งด้วย  โดยได้เงินค่าพรีเซ็นเตอร์จากผู้จัดรายการบ้างเล็กๆน้อยๆพอนำมาช่วยต่อความชราออกไปได้อีก  ปู่เพียงแต่หวังว่า เมื่ออายุ 120 ขวบ ปู่จะได้เงินก้อนโตมาเลี้ยงชีพให้เป็นสุข    แต่ปู่ก็สงสัยว่า  อีกห้าสิบปี เงินห้าแสนบาท จะซื้อขนมเปี๊ยตั้งเซ่งจั๊วได้สักแผ่นหรือเปล่านะ?



      นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  “ก่อนเซ็นอะไร  จงอ่านให้รอคอบเข้าใจก่อน  จึงค่อยลงนาม  และอย่าเซ็นไปก่อนให้เขาไปกรอกข้อความเอง”    ใครไม่เชื่ออยากลองดูก็ได้นะ ท้าเลย



                                       ดร. บุญเสริม  บุญเจริญผล   











หมายเหตุ  เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริงนะครับ  แม้สถานที่จะใช่  แต่ก็เป็นเพียงนิทานสอนลูกหลาน    หรืออยากนำไปเล่ากันต่อๆไปให้เป็นตำนานสนุกก็พอได้ 





















© Copyright 2009 Boonserm Booncharoenpol (booncharoenpol at Writing.Com). All rights reserved.
Writing.Com, its affiliates and syndicates have been granted non-exclusive rights to display this work.
Log in to Leave Feedback
Username:
Password: <Show>
Not a Member?
Signup right now, for free!
All accounts include:
*Bullet* FREE Email @Writing.Com!
*Bullet* FREE Portfolio Services!
Printed from https://www.writing.com/main/view_item/item_id/1569533-The-Carelessness-of-Grandpa-Sew